/
/
/
เหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar)
Loading...

เหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar)

หมวดหมู่: ป้ายกำกับ:

เหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar) คือเหล็กเส้นที่มีลายหรือรอยหยักบนผิว ใช้ในงานก่อสร้างเพื่อเสริมความแข็งแรงและเพิ่มการยึดเกาะกับคอนกรีต เหมาะสำหรับการใช้ในงานโครงสร้างที่ต้องการรับแรงมาก เช่น เสา คาน และพื้นคอนกรีต ความหยักบนผิวเหล็กช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะกับคอนกรีต ทำให้โครงสร้างมีความแข็งแรงและทนทานมากยิ่งขึ้น

เหล็กข้ออ้อย คืออะไร?

เหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar) เป็นเหล็กเส้นชนิดหนึ่งที่ใช้เป็นวัสดุหลักในงานก่อสร้าง โดยเฉพาะในงานคอนกรีตเสริมเหล็ก ทำหน้าที่เพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างคอนกรีต เหล็กข้ออ้อยมีลักษณะพิเศษแตกต่างจากเหล็กเส้นทั่วไป (เหล็กเส้นกลมหรือเหล็กรีดร้อน) คือมีลวดลายหรือรอยนูนขึ้นมาตามแนวยาวของเหล็ก ซึ่งเรียกว่า “ข้ออ้อย” หรือ “ร่องข้ออ้อย”

สินค้าเหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar)

สินค้าเหล็กข้ออ้อยเป็นวัสดุก่อสร้างที่มีความสำคัญในโครงการก่อสร้างหลากหลายประเภท เนื่องจากมีความแข็งแรงสูงและสามารถยึดเกาะกับคอนกรีตได้ดี เหล็กข้ออ้อยมักใช้ในการเสริมแรงโครงสร้างคอนกรีตเพื่อเพิ่มความมั่นคงและปลอดภัยให้กับโครงสร้าง

คุณสมบัติของสินค้าเหล็กข้ออ้อย

  • ความแข็งแรงสูง: เหล็กข้ออ้อยมีความแข็งแรงสูง ทำให้สามารถรับน้ำหนักและแรงดึงได้ดี
  • ความทนทาน: เหล็กข้ออ้อยมีความทนทานต่อการกัดกร่อนและสภาพอากาศ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกสภาวะแวดล้อม
  • การยึดเกาะกับคอนกรีต: ผิวของเหล็กข้ออ้อยมีลักษณะเป็นข้อๆ หรือบั้งๆ ซึ่งช่วยเพิ่มการยึดเกาะกับคอนกรีต ทำให้โครงสร้างมีความแข็งแรงยิ่งขึ้น
  • มาตรฐานการผลิต: เหล็กข้ออ้อยที่ดีต้องผลิตตามมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น มอก. 24-2548 (มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กเส้นข้ออ้อยสำหรับงานก่อสร้าง)

ขนาดและน้ำหนักของเหล็กข้ออ้อย

เหล็กข้ออ้อยมีหลายขนาดและน้ำหนักให้เลือกใช้ตามความต้องการของโครงการก่อสร้าง ขนาดที่ใช้บ่อยได้แก่:

  • เหล็กข้ออ้อย ขนาด 10 มม.: น้ำหนักประมาณ 0.62 กก./ม.
  • เหล็กข้ออ้อย ขนาด 12 มม.: น้ำหนักประมาณ 0.89 กก./ม.
  • เหล็กข้ออ้อย ขนาด 16 มม.: น้ำหนักประมาณ 1.58 กก./ม.
  • เหล็กข้ออ้อย ขนาด 20 มม.: น้ำหนักประมาณ 2.47 กก./ม.
หจก.พรณรงค์ โลหะกิจ ร้านขายเหล็กและวัสดุก่อสร้างคุณภาพสูงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) สินค้าเหล็กข้ออ้อย
เหล็กข้ออ้อย

ลักษณะของเหล็กข้ออ้อยที่ดี

การเลือกเหล็กข้ออ้อยที่ดีขึ้นอยู่กับชนิดของโครงสร้างเป็นสำคัญ ลักษณะของเหล็กข้ออ้อยที่ดีควรมีคุณสมบัติดังนี้

  • ระยะบั้งเท่ากันและสม่ำเสมอตลอดทั้งเส้น
  • ไม่มีตำหนิ ไม่มีสนิม
  • ไม่มีรอยแตกร้าว ไม่ปริแตกหรือหักง่าย
  • น้ำหนักและเส้นผ่านศูนย์กลางถูกต้องตามมาตรฐาน

ครีบและบั้งของเหล็กข้ออ้อย

เหล็กข้ออ้อยแตกต่างจากเหล็กเส้นกลมตรงที่มีครีบและบั้ง ซึ่งช่วยเพิ่มการยึดเกาะของเหล็กกับเนื้อคอนกรีตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

  • บั้ง : ควรมีระยะที่เท่ากันตลอดทั้งเส้น และทำมุมไม่ต่ำกว่า 45 องศากับแกนของเหล็กข้ออ้อย
  • ครีบ : ควรมีอยู่กึ่งกลางระหว่างบั้งตลอดทั้งเส้น

การใช้งานของเหล็กข้ออ้อย

เหล็กข้ออ้อยถูกนำมาใช้ในหลากหลายงานก่อสร้าง เช่น

  • การเสริมแรงคอนกรีต: ใช้ในการเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างคอนกรีต เช่น เสา คาน พื้น และผนัง
  • การทำโครงสร้างสะพาน: ใช้ในการสร้างโครงสร้างสะพานที่ต้องการความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานหนัก
  • การสร้างอาคารสูง: ใช้ในการทำโครงสร้างหลักของอาคารสูง เพื่อเพิ่มความมั่นคงและปลอดภัย
  • งานโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ: ใช้ในการทำโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น ถนน ทางรถไฟ และระบบสาธารณูปโภค

 

เหล็กข้ออ้อยที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร?

  1. คุณสมบัติทางกายภาพ

เหล็กข้ออ้อยที่ดีต้องมีความแข็งแรงและทนต่อแรงดึง (Tensile Strength) ได้ดี มักจะวัดโดยหน่วยนิวตันต่อตารางมิลลิเมตร (N/mm²) เหล็กที่มีคุณภาพจะต้องสามารถทนต่อแรงดึงได้สูง เพื่อรองรับน้ำหนักและแรงต่าง ๆ ที่กระทำต่อโครงสร้าง

  • ค่ากำลังรับแรงดึง (Tensile Strength): เหล็กข้ออ้อยควรมีค่ากำลังรับแรงดึงสูง เพื่อรองรับน้ำหนักและแรงเคลื่อนที่ของโครงสร้างได้เป็นอย่างดี ค่านี้มักจะอยู่ที่ประมาณ 400 ถึง 500 N/mm² ขึ้นอยู่กับมาตรฐานการผลิต
  • ความทนทานต่อการเปลี่ยนรูป (Ductility): เหล็กข้ออ้อยที่ดีต้องสามารถโค้งงอได้ในระดับที่เหมาะสมโดยไม่แตกหัก เพื่อช่วยให้โครงสร้างสามารถรองรับแรงดันที่เกิดขึ้นในระหว่างการก่อสร้างหรือการใช้งานได้
  1. รูปลักษณ์ภายนอกและพื้นผิวของเหล็ก

พื้นผิวของเหล็กข้ออ้อยควรมีลักษณะเป็นลวดลาย (ที่เรียกว่า “ข้ออ้อย”) ช่วยเพิ่มความยึดเกาะระหว่างเหล็กและคอนกรีต โดยลวดลายเหล่านี้จะช่วยให้คอนกรีตจับกับเหล็กได้ดีขึ้น ลดการลื่นไถลในระหว่างการก่อสร้างหรือเมื่อต้องรับแรงดันจากน้ำหนักโครงสร้าง

  • ลวดลายของเหล็กข้ออ้อย (Deformation): ลักษณะของข้ออ้อยต้องชัดเจนและต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะกับคอนกรีต ดังนั้นการออกแบบลวดลายที่มีประสิทธิภาพสูงจะช่วยให้โครงสร้างมีความทนทานมากขึ้น
  • ผิวเหล็กเรียบและไม่มีสนิม: เหล็กที่มีคุณภาพจะต้องไม่มีรอยสนิมหรือสิ่งสกปรกติดบนพื้นผิว การที่เหล็กมีสนิมหรือการกัดกร่อนจะลดความแข็งแรงและประสิทธิภาพของวัสดุ นอกจากนี้ ผิวเหล็กควรเรียบไม่มีรอยแตกหรือรอยตำหนิ
  1. ขนาดและเส้นผ่านศูนย์กลางที่สม่ำเสมอ

ขนาดของเหล็กข้ออ้อยควรมีความสม่ำเสมอ โดยทั่วไปเหล็กข้ออ้อยจะมีหลายขนาดตามความต้องการของงานก่อสร้าง ขนาดมาตรฐานมักมีเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 6 มิลลิเมตร ไปจนถึง 40 มิลลิเมตร การมีขนาดที่สม่ำเสมอจะช่วยให้โครงสร้างมีความแข็งแรงและมั่นคง

  • ความสม่ำเสมอของเส้นผ่านศูนย์กลาง: ขนาดของเหล็กต้องสม่ำเสมอตลอดความยาว ไม่บางหรือหนาในบางจุด เพราะจะส่งผลต่อการรองรับแรงดันและน้ำหนักของโครงสร้าง
  • ความตรงของเหล็ก: เหล็กข้ออ้อยต้องมีลักษณะตรงและไม่คดงอ อาจส่งผลให้การติดตั้งในโครงสร้างไม่สมบูรณ์และลดความแข็งแรงของโครงสร้าง
  1. ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม

เหล็กข้ออ้อยที่ดีจะต้องทนทานต่อการกัดกร่อน อย่างการเกิดสนิมได้ดี โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือมีสารเคมี การเคลือบสารป้องกันสนิมหรือใช้เหล็กที่ผลิตจากวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อน จะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของเหล็ก

  • การเคลือบสารป้องกันสนิม: ในบางกรณี เหล็กข้ออ้อยอาจได้รับการเคลือบด้วยสารป้องกันสนิม เช่น กัลวาไนซ์ หรือวัสดุอื่น ๆ ที่ช่วยป้องกันการเกิดสนิมได้ดีขึ้น
  • ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ: เหล็กข้ออ้อยที่ดีต้องทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้น เพื่อป้องกันการแตกหักหรือเปราะง่าย
  1. ความยืดหยุ่นและการดัดโค้ง

เหล็กข้ออ้อยที่มีคุณภาพดีต้องสามารถดัดโค้งได้ตามต้องการโดยไม่แตกหัก ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการใช้ในโครงสร้างที่ต้องการความยืดหยุ่นในการติดตั้ง เช่น ในโครงสร้างที่มีรูปทรงซับซ้อน

หจก.พรณรงค์ โลหะกิจ ร้านขายเหล็กและวัสดุก่อสร้างคุณภาพสูงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) สินค้าเหล็กข้ออ้อย
เหล็กข้ออ้อย

ส่วนประกอบทางเคมีและคุณสมบัติทางกลของเหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar)

ตารางเหล็กเส้นข้ออ้อย

ส่วนประกอบทางเคมี

ชั้นคุณภาพ

ส่วนประกอบทางเคมีไม่เกินร้อยละโดยน้ำหนัก

คาร์บอน

แมงกานีส

ฟอสฟอรัส

กำมะถัน

คาร์บอน+แมงกานีส/6

SD 30
SD 40
SD 50

0.27


1.80
1.80

0.05
0.05
0.05

0.05
0.05
0.05

0.50
0.55
0.60

คุณสมบัติทางกล

คุณสมบัติทางกล

ชั้นคุณภาพ

ความต้านแรงดึงสูงสุด
(กก./ตร.มม.)

ความต้านแรงดึงที่จุดคราก (กก./ตร.มม.)

ความยืด
(ร้อยละ)

การทดสอบดัดโค้งเย็น

มุมดัดโค้งเย็น

เส้นผ่านศูนย์กลาง
ภายในส่วนโค้ง

SD 30

480 (49)

295 (30)

17

180

4 เท่า

SD 40

560 (57)

390 (40)

15

180

5 เท่า

SD 50

620 (63)

490 (50)

13

180

5 เท่า

ขนาดและน้ำหนัก

ขนาดและน้ำหนักระบุ

ชื่อขนาด

เส้นผ่านศูนย์กลาง (มม.)

พื้นที่ภาคตัดขวาง (ตร.มม.)

น้ำหนัก (กก./ม.)

DB 10
DB 12
DB 16
DB 20
DB 22
DB 25
DB 28
DB 32
DB 36
DB 40

10
12
16
20
22
25
28
32
36
40

78.54
113.10
201.06
314.16
380.13
490.87
615.75
804.25
1017.88
1256.64

0.616
0.888
1.578
2.466
2.984
3.853
4.834
6.313
7.990
9.865

 

ประโยชน์ของเหล็กข้ออ้อยในงานก่อสร้าง

  1. เพิ่มความแข็งแรงให้คอนกรีต: คอนกรีตมีความสามารถในการรับแรงอัดได้ดี แต่มีจุดอ่อนในการรับแรงดึง เมื่อใช้เหล็กข้ออ้อยร่วมกับคอนกรีต จะช่วยเพิ่มความสามารถในการรับแรงดึง ทำให้โครงสร้างทนทานขึ้น
  2. ลดการเลื่อนของเหล็กในคอนกรีต: ลวดลายเหล็กข้ออ้อย จะช่วยยึดเหล็กให้อยู่ในตำแหน่งที่มั่นคงภายในคอนกรีต ลดความเสี่ยงในการที่เหล็กจะเลื่อนหรือขยับเมื่อโครงสร้างต้องรับแรงกระทำ แรงดึงหรือแรงอัด
  3. เหมาะสำหรับโครงสร้างขนาดใหญ่: เหล็กข้ออ้อยถูกใช้อย่างแพร่หลายในงานก่อสร้างขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นงานอาคารสูง สะพาน ถนน หรือฐานรากของอาคาร เนื่องจากเหล็กชนิดนี้มีความแข็งแรงและทนทานสูง นอกจากทนทานต่อแรงดึงและแรงอัดได้ดีแล้ว ยังทนต่อสภาพแวดล้อมได้อีกด้วย

มาตรฐานการผลิตเหล็กข้ออ้อยในประเทศไทยและต่างประเทศ

  1. มาตรฐานการผลิตเหล็กข้ออ้อยในประเทศไทย

ในประเทศไทย มาตรฐานการผลิตเหล็กข้ออ้อยถูกกำหนด โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ซึ่งมีมาตรฐานหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเหล็กเส้นข้ออ้อย ดังนี้

  • มาตรฐาน มอก. 24-2559

มาตรฐาน มอก. 24-2559 คือมาตรฐานสำหรับเหล็กข้ออ้อยหรือเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต ซึ่งกำหนดคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น

  • คุณสมบัติทางกายภาพ: กำหนดขนาด เส้นผ่านศูนย์กลาง น้ำหนัก และค่าความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ เพื่อให้มั่นใจว่าเหล็กมีขนาดและน้ำหนักตามที่กำหนด
  • ค่ากำลังรับแรงดึง (Tensile Strength): ระบุถึงความสามารถของเหล็กในการรับแรงดึง โดยปกติเหล็กข้ออ้อยต้องมีค่ากำลังรับแรงดึงสูงกว่าเหล็กเส้นธรรมดา
  • ค่ากำลังรับแรงยืด (Yield Strength): กำหนดความสามารถของเหล็กในการรับแรงยืดโดยไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างหรือความเสียหาย
  • การทดสอบการดัดโค้ง (Bend Test): เหล็กข้ออ้อยต้องผ่านการทดสอบการดัดโค้ง เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถโค้งงอได้โดยไม่แตกหัก
    • มาตรฐาน มอก. 20-2559

มอก. 20-2559 เป็นมาตรฐานที่ใช้กับเหล็กเส้นกลมสำหรับเสริมคอนกรีต มาตรฐานนี้เน้นไปที่เหล็กที่ใช้ในงานคอนกรีตที่ต้องการความแข็งแรงน้อยกว่าเหล็กข้ออ้อย

  1. มาตรฐานการผลิตเหล็กข้ออ้อยในต่างประเทศ

ในระดับสากล มาตรฐานการผลิตเหล็กข้ออ้อยจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาคหรือประเทศที่ใช้งาน ตัวอย่างมาตรฐานหลัก ๆ ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ได้แก่

2.1) มาตรฐาน ASTM (American Society for Testing and Materials)

มาตรฐาน ASTM จากสหรัฐอเมริกา เป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับเหล็กข้ออ้อยมีหลายฉบับ เช่น

  • มาตรฐาน ASTM A615: เป็นมาตรฐานสำหรับเหล็กข้ออ้อยคาร์บอนที่ใช้เสริมคอนกรีต กำหนดให้เหล็กต้องมีความทนทานต่อแรงดึงและแรงอัดสูง มีความยืดหยุ่นที่เพียงพอสำหรับการโค้งงอในกระบวนการก่อสร้าง
  • มาตรฐาน ASTM A706: เป็นมาตรฐานสำหรับเหล็กข้ออ้อยที่ถูกออกแบบมาให้มีความสามารถในการโค้งงอได้ดีขึ้น เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความยืดหยุ่น เช่น งานก่อสร้างในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหว
  • มาตรฐาน ASTM A1035: เป็นมาตรฐานสำหรับเหล็กที่มีความแข็งแรงสูงพิเศษ ใช้ในโครงสร้างที่ต้องการรองรับน้ำหนักมากและมีความทนทานต่อการกัดกร่อน

2.2) มาตรฐาน BS (British Standards)

BS 4449 เป็นมาตรฐานจากสหราชอาณาจักรที่กำหนดข้อกำหนดสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต มาตรฐานนี้มีการกำหนดค่ากำลังรับแรงดึง ความยืดหยุ่น และการทดสอบต่าง ๆ ที่คล้ายคลึงกับมาตรฐาน ASTM นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดเฉพาะเกี่ยวกับการเคลือบสารป้องกันสนิมในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง

2.3) มาตรฐาน JIS (Japanese Industrial Standards)

มาตรฐาน JIS G3112 จากประเทศญี่ปุ่นกำหนดคุณสมบัติของเหล็กข้ออ้อยสำหรับใช้เสริมคอนกรีตในงานก่อสร้าง มาตรฐานนี้เน้นเรื่องความแข็งแรง การทนทานต่อแรงดึงและแรงอัด รวมถึงความยืดหยุ่นที่ดี ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการก่อสร้างในพื้นที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหว เช่นเดียวกับมาตรฐาน ASTM A706

วิธีการเลือกเหล็กข้ออ้อยที่มีคุณภาพสำหรับงานก่อสร้าง

  • มาตรฐานการผลิต

การเลือกซื้อเหล็กข้ออ้อยที่มีคุณภาพสำหรับงานก่อสร้างนั้นประกอบด้วยหลายปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึง เริ่มจากการตรวจสอบมาตรฐานการผลิต โดยควรเลือกเหล็กที่มีการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ อาทิ มาตรฐาน มอก. หรือมาตรฐาน ASTM เพื่อยืนยันถึงคุณสมบัติทางกายภาพและเคมีของเหล็ก นอกจากนี้ ค่ากำลังรับแรงดึงและแรงยืดก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตรวจสอบ เนื่องจากเหล็กที่มีคุณภาพจะต้องมีค่าดังกล่าวอยู่ในช่วงที่เหมาะสมตามความต้องการของโครงการ

  • คุณลักษณะภายนอกของเหล็กข้ออ้อย

ในส่วนของลักษณะภายนอก เหล็กควรมีลวดลายข้ออ้อยที่ชัดเจนและสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มการยึดเกาะกับคอนกรีต และควรมีพื้นผิวที่เรียบ ไม่มีรอยแตกหรือสนิมที่อาจส่งผลต่อความแข็งแรง การเลือกขนาดและเส้นผ่านศูนย์กลางที่เหมาะสมตามแผนการออกแบบก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะขนาดที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้โครงสร้างมีจุดอ่อน

  • ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม

นอกจากนี้ ความทนทานต่อสภาพแวดล้อมเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ควรพิจารณา โดยเฉพาะในกรณีที่เหล็กข้ออ้อยจะถูกใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสารเคมี ควรเลือกเหล็กข้ออ้อยที่มีการเคลือบสารป้องกันสนิมเพื่อยืดอายุการใช้งาน การเลือกจากผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในตลาดยังเป็นสิ่งสำคัญ เพราะผู้ผลิตที่มีประวัติการผลิตที่ดีมักจะมีมาตรฐานการควบคุมคุณภาพสูง

เหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar) เป็นวัสดุก่อสร้างที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการเสริมความแข็งแรงให้กับงานโครงสร้างที่ใช้คอนกรีตเป็นหลัก โดยเฉพาะในงานที่ต้องการการรองรับน้ำหนักและความทนทานต่อแรงดึงเป็นพิเศษ เหล็กข้ออ้อยมีลักษณะผิวที่เป็นร่องหรือมีปุ่ม ซึ่งช่วยเพิ่มการยึดเกาะกับคอนกรีตได้ดี ทำให้โครงสร้างแข็งแรงและมั่นคงยิ่งขึ้น จึงเหมาะกับการใช้งานในโครงการต่าง ๆ ที่ต้องการมาตรฐานสูง ดังนี้:

  1. งานก่อสร้างอาคารที่ต้องการความแข็งแรง: เหล็กข้ออ้อยถูกนำมาใช้ในเสาและคานของอาคารขนาดใหญ่และสูง เพื่อเพิ่มความสามารถในการรองรับน้ำหนักและเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้าง
  2. งานคอนกรีตเสริมเหล็กในพื้นและผนัง: เหล็กข้ออ้อยมักใช้ร่วมกับคอนกรีตในการสร้างพื้นและผนังที่ต้องการความคงทน โดยเฉพาะในโครงการที่ต้องการความปลอดภัยสูง
  3. งานก่อสร้างทางวิศวกรรมขนาดใหญ่: เช่น การสร้างสะพาน ถนน หรือโครงสร้างอื่น ๆ ที่ต้องรองรับการใช้งานหนักและทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนและแรงกระแทก
  4. งานโครงสร้างฐานรากและโครงสร้างรองรับ: เหล็กข้ออ้อยช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับฐานรากและโครงสร้างรองรับต่าง ๆ เช่น ฐานรากของอาคารและสิ่งปลูกสร้าง เพื่อให้โครงสร้างมีความมั่นคงและสามารถรองรับน้ำหนักได้มาก

เหล็กข้ออ้อยจึงเป็นตัวเลือกที่สำคัญสำหรับโครงการที่ต้องการคุณภาพและความแข็งแรงสูง ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างได้เป็นอย่างดี

เหตุผลที่ควรเลือกซื้อเหล็กข้ออ้อยจากเรา

  • คุณภาพสูง: ผลิตภัณฑ์ของเราผ่านการตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐานสากล
  • ราคายุติธรรม: เรานำเสนอราคาที่แข่งขันได้และคุ้มค่าต่อการลงทุน
  • บริการครบวงจร: เรามีบริการจัดส่งที่รวดเร็วและการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้งานเหล็กข้ออ้อย

เหล็กข้ออ้อยเป็นวัสดุก่อสร้างที่ขาดไม่ได้ในงานก่อสร้างทุกประเภท ด้วยความแข็งแรง ทนทาน และคุณสมบัติที่หลากหลาย เรามีความยินดีที่จะเสนอเหล็กข้ออ้อยคุณภาพสูงในราคาที่เป็นมิตร พร้อมบริการที่ยอดเยี่ยมเพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า

ร้านขายเหล็ก พรณรงค์ โลหะกิจ (Phornnarong Lohakit) เจ้าใหญ่ในประเทศไทย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี

บทความล่าสุด

เหล็กกล่องใช้สร้างบ้านได้ไหม
การใช้เหล็กกล่องในการสร้างบ้านเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะในงานก่อสร้างที่ต้องการความแข็งแร...
หน่วยหุนคืออะไร
หุนเป็นหน่วยวัดความยาวหรือความหนาที่มีต้นกำเนิดจากจีนโบราณ ซึ่งถูกนำมาใช้ในภาษาช่าง เพื่อวัดขนาดระยะเส้นผ่านศูนย์กลางของ...
ร้านจำหน่ายเหล็กรูปพรรณ พรณรงค์ โลหะกิจ (Phornnarong Lohakit)
บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับเหล็กรูปพรรณ ประเภทต่างๆ ของเหล็กรูปพรรณ รวมถึงข้อดีที่ทำให้มันกลายเป็นวัสดุที่สำคัญในว...
ร้านจำหน่ายเหล็กรูปพรรณ พรณรงค์ โลหะกิจ (Phornnarong Lohakit)
ท่อ PVC (Polyvinyl Chloride) เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในงานระบบประปาและงานก่อสร้า...
หจก.พรณรงค์ โลหะกิจ ร้านขายเหล็กและวัสดุก่อสร้างคุณภาพสูงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)
การเลือกซื้อเหล็กท่อสำหรับระบบน้ำประปาเป็นกระบวนการที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียด เนื่องจากท่อเป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อประสิทธ...
หจก.พรณรงค์ โลหะกิจ ร้านขายเหล็กและวัสดุก่อสร้างคุณภาพสูงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)
การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อประสิทธิภาพและความสุขของพนักงาน หลักการ "Safety Fir...
หจก.พรณรงค์ โลหะกิจ ร้านขายเหล็กและวัสดุก่อสร้างคุณภาพสูงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)
การตรวจสอบคุณภาพเหล็กเส้นกลมเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้ เนื่องจากเหล็กเส้นกลมมีบทบาทสำคัญในการเสริมความแข็งแรงแล...
หจก.พรณรงค์ โลหะกิจ ร้านขายเหล็กและวัสดุก่อสร้างคุณภาพสูงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)
เหล็กม้วนชุบสังกะสีเป็นวัสดุสำคัญในการผลิตแผ่นเมทัลชีท ซึ่งถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมก่อสร้างและการผลิตอื่นๆ...
รถบรรทุกขนส่งเหล็ก
การขนส่งเหล็กเป็นกระบวนการที่สำคัญในอุตสาหกรรมก่อสร้างและการผลิต โดยเหล็กเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักมากและมีขนาดใหญ่ การขนส่งจ...

สินค้าล่าสุด

เหล็กกล่องกัลวาไนซ์
Phornnaronglohakit ผลิตและจำหน่ายเหล็กกล่องกัลวาไนซ์ (Galvanized Steel Tube) คือเหล็กกล่องที่ถูกชุบด้วยสังกะสี (Galvaniz...
เหล็กเส้นกลม
เหล็กเส้นกลมเป็นวัสดุก่อสร้างที่สำคัญและใช้กันอย่างแพร่หลายในโครงการก่อสร้างหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นอาคารบ้านเรือน สะ...
เหล็กไอบีม
เหล็กโครงสร้าง (Structural Steel) คือวัสดุเหล็กที่มีหน้าตัดเป็นรูปร่างต่าง ๆ เช่น H-Beam, I-Beam, เหล็กฉาก, เหล็กรางน้ำ ...
เหล็กข้ออ้อย
เหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar) คือเหล็กเส้นที่มีลายหรือรอยหยักบนผิว ใช้ในงานก่อสร้างเพื่อเสริมความแข็งแรงและเพิ่มการยึดเกาะ...
เหล็กรางน้ำ
เหล็กรางน้ำ หรือ Channel Steel เป็นเหล็กโครงสร้างรูปตัว C (C-Channel) มีคุณสมบัติแข็งแรงและทนทาน ถูกใช้อย่างแพร่หลายในงา...
เหล็กกล่อง
เหล็กกล่อง หรือเหล็กโครงสร้างรูปพรรณกลวง เป็นวัสดุก่อสร้างที่มีความสำคัญในงานก่อสร้างหลากหลายประเภท เนื่องจากมีความแข็งแ...