ความแตกต่างของเหล็กรีดเย็น vs เหล็กรีดร้อน

หน้าแรก

ทั่วไป

ร้านจำหน่ายเหล็กรูปพรรณ เหล็กก่อสร้าง จัดส่งไวราคาถูกจริง

เช็คราคาเหล็กเส้น

โทร. 02-287-4097 / 090-456-1183 (มือถือ)
Line : PNRLOHAKIT

เปรียบเทียบเหล็กรีดร้อนกับเหล็กรีดเย็น: ต่างกันอย่างไร เลือกใช้แบบไหนดีกว่า?

ในการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่แข็งแรง ทนทาน และเหมาะสมกับลักษณะงาน หนึ่งในคำถามสำคัญที่ผู้รับเหมาและวิศวกรหลายคนมักสงสัยคือ “เหล็กรีดร้อนกับเหล็กรีดเย็น ต่างกันอย่างไร?” บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างเหล็กทั้งสองประเภท รวมถึงตัวอย่างการใช้งานที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถเลือกใช้เหล็กได้ตรงกับความต้องการและปลอดภัยในระยะยาว

หัวข้อ

เหล็กรีดร้อน (Hot Rolled Steel) คืออะไร?

เหล็กรีดร้อนเป็นเหล็กที่ผลิตโดยการหลอมเหล็กด้วยอุณหภูมิสูงแล้วนำไปรีดขึ้นรูปในสภาพร้อน ก่อนจะปล่อยให้เย็นลงตามธรรมชาติ พื้นผิวของเหล็กรีดร้อนมักจะมีลักษณะหยาบ สีเทาดำ และมีความแข็งแรงทนทาน เหมาะสำหรับงานโครงสร้างขนาดใหญ่ที่ต้องการรองรับน้ำหนักมาก

คุณสมบัติเด่นของเหล็กรีดร้อน:

ทนต่อแรงดึง แรงอัด และแรงบีบได้ดี
ดัดโค้งได้โดยไม่เสียความแข็งแรง
น้ำหนักเบากว่าคอนกรีตเสริมเหล็ก เหมาะสำหรับงานที่ต้องการโครงสร้างเบา
ติดตั้งและรื้อถอนได้ง่าย เหมาะกับงานโครงสร้างชั่วคราว
รองรับการทาสี โบกปูน หรือเทคอนกรีตเพิ่มเติมได้

ตัวอย่างเหล็กรีดร้อน:

เหล็กเส้นกลม (RB): หน้าตัดกลม ผิวเรียบ เหมาะกับปลอกเสา ปลอกคาน
เหล็กเส้นข้ออ้อย (DB): มีบั้งรอบเส้น เพิ่มแรงยึดเกาะ ใช้ในงานคอนกรีตเสริมเหล็ก
เหล็ก H-Beam: หน้าตัดรูปตัว H เหมาะสำหรับเสา คาน โครงสร้างหลังคา
เหล็ก I-Beam: คล้าย H-Beam แต่ปีกหนากลาง เหมาะกับโครงสร้างที่รับแรงกระแทก
เหล็กฉาก (Angle Bar): หน้าตัดรูปตัว L ใช้เสริมความมั่นคงให้โครงสร้าง
เหล็กแผ่นดำ: เหล็กรีดร้อนแผ่นเรียบ ตัดตามขนาด ใช้ในงานพื้นหรือโครงสร้างทั่วไป

เหล็กรีดเย็น (Cold Rolled Steel) คืออะไร?

เหล็กรีดเย็นคือเหล็กที่ผ่านการขึ้นรูปในอุณหภูมิห้อง โดยใช้การพับ เชื่อม หรือรีดเหล็กแผ่นให้เป็นรูปทรงตามต้องการ เหล็กรีดเย็นมักมีพื้นผิวเรียบมัน สวยงาม และมีความแม่นยำในการผลิตสูง เหมาะสำหรับงานตกแต่งหรืองานโครงสร้างขนาดเล็กถึงกลาง

คุณสมบัติเด่นของเหล็กรีดเย็น:

น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย เหมาะกับงานที่ต้องการความรวดเร็วในการก่อสร้าง
พื้นผิวเรียบ มันวาว เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความสวยงาม
รองรับการทาสีและตกแต่งผิวได้ดี

ตัวอย่างเหล็กรีดเย็น:

เหล็กตัวซี (C-Lip Channel): หน้าตัดรูปตัว C ใช้ในงานหลังคาและโครงสร้างเบา
เหล็กท่อกลม (แป๊ปดำ): โครงสร้างภายในกลวง พื้นผิวเรียบ ใช้ในโครงสร้างหลังคาหรือโครงถัก
เหล็กกล่องเหลี่ยม/แบน: หน้าตัดสี่เหลี่ยม กลวง แข็งแรง ใช้ในงานโครงสร้างทั่วไป เช่น เสาและพื้น
เหล็กฉากพับ (Cold Formed Angle): หน้าตัดรูปตัว L น้ำหนักเบา เหมาะกับงานตกแต่งหรือโครงสร้างเล็ก
เหล็กกัลวาไนซ์: เหล็กรีดเย็นเคลือบสังกะสี ป้องกันสนิม อายุการใช้งานยาวนาน เหมาะกับงานก่อสร้างและอุตสาหกรรม

สรุปความแตกต่างของเหล็กเส้นรีดร้อนและรีดเย็น

กระบวนการผลิต: เหล็กเส้นรีดเย็นถูกรีดที่อุณหภูมิต่ำ ส่วนเหล็กเส้นรีดร้อนถูกรีดที่อุณหภูมิสูง
คุณสมบัติทางกายภาพ: เหล็กเส้นรีดเย็นมีความแข็งแรงและผิวเรียบกว่า ส่วนเหล็กเส้นรีดร้อนมีความยืดหยุ่นและเหนียวมากกว่า
การใช้งาน: เหล็กเส้นรีดเย็นเหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำและสวยงาม ส่วนเหล็กเส้นรีดร้อนเหมาะกับงานโครงสร้างทั่วไปที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง

ตารางเปรียบเทียบระหว่างเหล็กรีดเย็น vs เหล็กรีดร้อน

คุณสมบัติ	เหล็กเส้นรีดร้อน	เหล็กเส้นรีดเย็น
กระบวนการผลิต	รีดที่อุณหภูมิสูง	รีดที่อุณหภูมิต่ำ
โครงสร้าง	หยาบกว่า	ละเอียดกว่า
ความเที่ยงตรงของขนาด	คลาดเคลื่อนมากกว่า	คลาดเคลื่อนน้อยกว่า
พื้นผิว	มีสเกลและตำหนิ	เรียบและไม่มีตำหนิ
การใช้งาน	งานโครงสร้างทั่วไป	งานที่ต้องการความแม่นยำ

บทสรุป

การเลือกใช้เหล็กรีดเย็นหรือเหล็กรีดร้อนขึ้นอยู่กับลักษณะของงานก่อสร้างและความต้องการของโครงการ หากต้องการความแข็งแรงและขนาดที่ไม่ต้องแม่นยำมาก เหล็กรีดร้อนอาจเป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากต้องการความเที่ยงตรงของขนาดและพื้นผิวที่เรียบ เหล็กรีดเย็นจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากกว่า การทำความเข้าใจถึงคุณสมบัติและการใช้งานของเหล็กแต่ละประเภทจะช่วยให้สามารถเลือกใช้วัสดุได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในงานก่อสร้าง