เหล็กHDG กับ เหล็กGI ต่างกันยังไง? 3 จุดสำคัญที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้งาน

เหล็กHDG กับ เหล็กGI ต่างกันยังไง? 3 จุดสำคัญที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้งาน
เหล็ก HDG เหล็ก GI ต่างกัน

เช็คราคาเหล็กวันนี้

โทร. 02-287-4097 / 090-456-1183 (มือถือ)
Line : PNRLOHAKIT

ในงานก่อสร้างหรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างเหล็ก การป้องกันสนิมเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เหล็กที่ผ่านการชุบสังกะสีจึงเป็นทางเลือกยอดนิยม โดยเฉพาะ “เหล็ก GI” และ “เหล็กกัลวาไนซ์ HDG” ซึ่งหลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่าทั้งสองแบบนี้แตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกใช้แบบไหนจึงจะเหมาะสมที่สุด บทความนี้จะพาคุณมา “เจาะลึกความต่าง” พร้อมเปรียบเทียบจุดเด่น-จุดด้อยของแต่ละประเภท

“เหล็ก GI กับ เหล็กกัลวาไนซ์ HDG ไม่เหมือนกัน”

เหล็กGI (Galvanized Iron) คืออะไร?

เหล็กGI หรือ Pre-zinc / Pre-galvanized Steel เป็นเหล็กที่เราพบเห็นส่วนใหญ่ในท้องตลาด หรือ ตามร้านวัสดุก่อสร้าง โดยเหล็ก GI  คือที่ผ่านการเคลือบสังกะสีตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตในรูปแบบม้วนเหล็ก (coil) โดยใช้กระบวนการที่เรียกว่า “Mill Galvanizing” ซึ่งจะชุบสังกะสีลงบนผิวเหล็กขณะยังเป็นม้วนขนาดใหญ่ ก่อนนำมาตัดและขึ้นรูปเป็นชิ้นงาน เช่น เหล็กกล่อง, เหล็กซี, เหล็กฉาก ทำให้เหล็กมีชั้นเคลือบสังกะสีที่ค่อนข้างบาง ประมาณ 5-20 ไมครอน

เหล็ก GI  เป็นวัสดุที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานโครงสร้างภายในอาคาร โดยเฉพาะส่วนที่ไม่ได้รับน้ำหนักมากนัก เช่น คาน แปหลังคา หรือจันทัน ซึ่งมักจะถูกปิดทับด้วยงาน Built-in อยู่แล้ว จุดเด่นสำคัญของเหล็ก GI คือไม่จำเป็นต้องทาสีกันสนิมเพิ่มเติม ช่วยลดทั้งค่าแรงช่างและระยะเวลาก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อีกหนึ่งข้อดีที่ไม่ควรมองข้ามคือ ความสามารถในการป้องกันสนิมที่เหนือกว่าการทาสีแบบทั่วไป แม้ผิวเหล็กจะถูกขีดข่วนจนถึงเนื้อใน แต่ชั้นเคลือบซิงค์ยังคงทำหน้าที่ปกป้องได้ดี ด้วยคุณสมบัติทางเคมีของซิงค์ที่ทำปฏิกิริยากับอากาศแทนเหล็ก ทำให้โอกาสเกิดสนิมลดลงอย่างมาก จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวัสดุก่อสร้างที่ทนทานและดูแลรักษาง่ายในระยะยาว

เหล็ก HDG เหล็ก GI ต่างกัน
กระบวนการผลิต เหล็ก GI

จุดเด่นของเหล็ก GI:

  • พื้นผิวเรียบ สีเทาเงิน ดูสวยงาม
  • น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย
  • ราคาย่อมเยา เหมาะกับงานภายใน
  • ไม่ต้องทาสีกันสนิมเพิ่มเติม ประหยัดเวลาและค่าแรง

ข้อจำกัดของเหล็ก GI:

  • ความหนาของเหล็กโดยทั่วไปไม่เกิน 2 มม.
  • ไม่เหมาะกับการใช้งานภายนอก หรือพื้นที่โดนแดดฝนโดยตรง
  • อายุการใช้งานเฉลี่ยไม่เกิน 10 ปี (ปกติชั้นเคลือบจะสลายไปปีละ 1 ไมครอน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม)

เหล็กกัลวาไนซ์ HDG คืออะไร?

เหล็กกัลวาไนซ์ HDG (Hot-Dip Galvanized) เป็นล็กที่ผ่านการชุบเคลือบสังกะสีด้วยวิธีการ “จุ่มร้อน” โดยนำเหล็กขึ้นรูปเสร็จแล้วไปจุ่มในบ่อสังกะสี ที่อุณหภูมิประมาณ 450°C ทำให้เกิดการยึดเกาะระหว่างสังกะสีและเหล็กอย่างแน่นหนา จนเกิดเป็นชั้นเคลือบหนาถึง 60–300 ไมครอน

เหล็ก HDG เหล็ก GI ต่างกัน
กระบวนการผลิต เหล็ก HDG

จุดเด่นของเหล็กHDG:

  • ป้องกันสนิมได้ดีเยี่ยมแม้ในสภาพอากาศที่รุนแรง
  • ทนทานต่อการกัดกร่อนได้มากกว่า 10 ปี (ปกติชั้นเคลือบจะสลายไปปีละ 1 ไมครอน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม)
  • เหมาะกับงานโครงสร้างภายนอก เช่น เสา, คาน, แป, งานโครงหลังคา
  • ไม่ต้องบำรุงรักษาบ่อยครั้ง

ข้อจำกัดเหล็กHDG:

  • ราคาสูงกว่าเหล็ก GI
  • น้ำหนักมากกว่า ทำให้การติดตั้งต้องใช้แรงงานเพิ่ม
  • ผิวอาจไม่เรียบสวยเท่าเหล็ก GI เนื่องจากมีคราบซิงค์จากการจุ่ม

เปรียบเทียบ เหล็กHDG กับ เหล็กGI: แบบไหนเหมาะกับคุณ?

ไม่ว่าจะเป็นเหล็กเคลือบซิงค์แบบ GI หรือเหล็กกัลวาไนซ์แบบ HDG ทั้งสองประเภทต่างถูกออกแบบมาเพื่อช่วยป้องกันการเกิดสนิม ช่วยลดขั้นตอนในการทาสี และประหยัดค่าแรงงานช่าง รวมถึงลดเวลาการก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้เหล็กชุบแบบใดนั้นควรพิจารณาตามลักษณะพื้นที่ใช้งานจริง และงบประมาณที่เจ้าของโครงการกำหนดไว้ เพื่อให้ได้วัสดุที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของความคงทนและความคุ้มค่า

เปรียบเทียบ

เหล็กGI

เหล็กHDG

วิธีการชุบ

ชุบในรูปแบบคอยล์ (Mill) ก่อนนำมาขึ้นรูปเหล็ก

เหล็กรูปพรรณ มาชุบแบบจุ่มร้อน (Hot-Dip)

ความหนาชั้นซิงค์

5–20 ไมครอน

60–300 ไมครอน

อายุการใช้งานโดยเฉลี่ย

5–10 ปี

20–50 ปี

ความสวยงามของพื้นผิว

เรียบเนียน สีเทาเงิน

ผิวด้าน มีคราบซิงค์บางจุด

เหมาะกับงานภายนอก

ไม่เหมาะ

เหมาะมาก

เหมาะกับงานภายใน

เหมาะมาก

เหมาะเช่นกัน แต่ต้นทุนสูงกว่า

ราคา

ถูกกว่า เหล็ก HDG

สูงกว่าเหล็ก GI

คำถามที่พบบ่อย

ใช้วัสดุอื่นแทนเหล็ก GI หรือ เหล็ก HDG ได้หรือไม่

 

แม้วัสดุอย่าง สแตนเลส หรือ อลูมิเนียม จะมีคุณสมบัติกันสนิมโดยธรรมชาติ แต่ในงานโครงสร้างหลักที่ต้องรับแรงมาก วัสดุเหล่านี้ยังไม่สามารถทดแทนเหล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในเรื่องราคา ความแข็งแรง และมาตรฐานที่รองรับ ดังนั้นเหล็กชุบซิงค์ (ทั้ง GI และ HDG) จึงยังคงเป็นตัวเลือกหลักที่ตอบโจทย์ทั้งความแข็งแรงและการกันสนิมในงานก่อสร้าง

 

เหล็ก HDG กับ เหล็ก GI เลือกเหล็กแบบไหนดี

การเลือกใช้เหล็ก GI หรือ HDG ควรพิจารณาตาม พื้นที่ใช้งาน งบประมาณ และอายุการใช้งานที่ต้องการ

หากต้องการใช้งานเหล็กในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้นหรือกลางแจ้งนาน ๆ เหล็ก HDG คือทางเลือกที่คุ้มค่าและทนทานที่สุดในระยะยาว แต่หากใช้งานในพื้นที่ภายในอาคาร หรือมีงบประมาณจำกัด เหล็ก GI ก็ถือว่าเพียงพอ และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก

  • หากเป็น งานภายใน ที่ไม่มีการสัมผัสกับน้ำหรือความชื้นโดยตรง → เลือกเหล็ก GI
  • หากเป็น งานภายนอก หรือโครงสร้างหลักที่ต้องการความทนทานสูง → เลือกเหล็ก HDG

การเลือกใช้เหล็กให้เหมาะสมตั้งแต่ต้น ช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดปัญหาสนิม และประหยัดค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงในอนาคตได้อย่างชัดเจน

เหล็ก HDG กับ เหล็ก GI ราคาเท่าไหร่

ราคาของเหล็ก HDG กับ เหล็ก GI มีการปรับเปลี่ยนตามปัจจัยหลายประการ เช่น ขนาด ความหนา ปริมาณการสั่งซื้อ และสภาพตลาดในแต่ละช่วงเวลา สามารถเช็คราคาเหล็กได้จาก

ติดต่อเรา/เช็คราคาเหล็ก

 

เหล็กกัลวาไนซ์
เหล็กกัลวาไนซ์ (Galvanized Steel) คือเหล็กที่ผ่านการเคลือบผิวด้วยชั้นของสังกะสี เพื่อช่วยป้องกันการเกิดสนิม โดยใช้วิธีกา...
เหล็ก HDG เหล็ก GI ต่างกัน
ในงานก่อสร้างหรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างเหล็ก การป้องกันสนิมเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เหล็กที่ผ่านการช...
โครงสร้างเหล็ก และ คอนกรีตเสริมเหล็ก
โครงสร้างหลักที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีอยู่ 2 ประเภท คือ โครงสร้างเหล็ก และ โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก แต่ละแบบมีจุดเด่นและข...
ขนาด น้ำหนักเหล็กกล่อง
ตารางขนาดและน้ำหนักของเหล็กกล่อง มอก. 107-2566 ครบถ้วนทั้งขนาด ความหนา และน้ำหนัก เหมาะสำหรับงานโครงสร้างและอุตสาหกรรมต่...
เหล็กปลอกเสา ปลอกคาน ฟุตติ้ง สั่งดัดได้ตามต้องการ
รับผลิตและจำหน่ายเหล็กปลอกเสา ปลอกคาน ฟุตติ้ง สำเร็จรูป และ สั่งดัดตามแบบ ขายได้ทุกจำนวน ผลิตจากเหล็กมี มอก. ดัดด้วยเครื...
เหล็กเพลท ตัดตามแบบ
รับตัดเหล็กเพลทตามแบบ เจาะรู CNC แม่นยำ สั่งตัดขนาดตามสั่ง เหมาะสำหรับงานโครงสร้าง อาคาร ฐานเสา ด้วยวัสดุมาตรฐาน มอก.