5 Checklist จุดเช็กก่อนซื้อเหล็กเส้นก่อสร้าง

5 Checklist จุดเช็กก่อนซื้อเหล็กเส้นก่อสร้าง
เช็กเหล็กเส้น

เช็คราคาเหล็กข้ออ้อยวันนี้

โทร. 02-287-4097 / 090-456-1183 (มือถือ)
Line : PNRLOHAKIT

การเลือกใช้เหล็กเส้นในการก่อสร้างอาคารมีผลโดยตรงต่อความแข็งแรงและความปลอดภัยของโครงสร้าง หากใช้เหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเหล็กปลอม จะทำให้เกิดความเสี่ยงสูงต่ออุบัติเหตุ เช่น โครงสร้างทรุดตัว หรือพังทลาย โดยไม่รู้ตัว ดังนั้น การตรวจสอบคุณภาพเหล็กอย่างรอบคอบก่อนซื้อจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม 

1. มีเครื่องหมาย มอก. หรือไม่

เครื่องหมาย มอก. คือเครื่องหมายรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่รับรองว่าเหล็กได้ผ่านการทดสอบคุณภาพ โดยจะมีการระบุไว้ที่ใบรับรองคุณภาพเหล็ก และ ป้ายแท็กเหล็ก เหล็กที่ไม่มีเครื่องหมาย มอก. อาจมีขนาดหรือคุณสมบัติที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งสามารถเสี่ยงต่อความปลอดภัยของโครงสร้างอาคารได้

  • เหล็กเส้น มอก. เหล็กเส้นกลม: มอก. 20-2559 และ เหล็กข้ออ้อย : มอก. 24-2559
  • เหล็กที่ไม่มี มอก. อาจมีขนาด น้ำหนัก และคุณสมบัติไม่ตรงตามสเปกจริง เสี่ยงต่อการวิบัติของโครงสร้าง

ข้อควรสังเกต:

  • ต้องมีเลข มอก. และปีที่ระบุชัดเจน
  • หลีกเลี่ยงเหล็กที่มีเพียงสติกเกอร์ หรือระบุเพียง “ตามมาตรฐาน” แต่ไม่มี มอก.

เช็กเหล็กเส้น แท็กเหล็ก

2.  ชื่อผู้ผลิตหรือเครื่องหมายการค้า (โลโก้) ต้องระบุชัดบนแท่งเหล็ก

เหล็กที่ได้มาตรฐานจะมีการ ประทับชื่อผู้ผลิต หรือ เครื่องหมายการค้า, ขนาดของเหล็ก, ชนิดของเหล็กเส้น , กระบวนการผลิตเหล็กเส้น และ กระบวนการผลิตเหล็กแท่ง  บนตัวเหล็กอย่างถาวร เพื่อป้องกันการปลอมแปลง เหล็กที่ไม่มีการระบุชื่อผู้ผลิตหรือไม่ตรงกับเอกสารที่ได้รับอาจทำให้ไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาและคุณภาพได้เสี่ยงต่อการได้เหล็กคุณภาพต่ำ

3. ตรวจสอบขนาดความยาวน้ำหนักว่าตรงตามมาตรฐานหรือไม่

เหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานมักจะ “ขนาดเล็ก” หรือ “น้ำหนักเบา” กว่าที่ระบุ ซึ่งอาจทำให้โครงสร้างอาคารไม่สามารถรับน้ำหนักได้ตามที่ออกแบบไว้ การตรวจสอบขนาดและน้ำหนักด้วยเครื่องมือ เช่น เครื่องชั่งน้ำหนักหรือเวอร์เนียร์ช่วยให้มั่นใจได้ว่าเหล็กที่ใช้นั้นตรงตามมาตรฐาน

  • เหล็กแท้ที่ได้ มอก. จะมีน้ำหนักต่อเมตรตรงตามตารางมาตรฐาน
  • เหล็กปลอมมักลดน้ำหนักเพื่อประหยัดต้นทุน เช่น ระบุว่าเป็น 16 มม. แต่จริงๆ มีขนาดเพียง 14-15 มม.
  • สามารถใช้ตลับเมตรวัดเส้นผ่านศูนย์กลาง และใช้เครื่องชั่งวัดน้ำหนักต่อเส้น เพื่อเทียบกับตารางมาตรฐานเหล็ก

เครื่องมือที่ใช้ตรวจสอบได้ง่าย:

  • เครื่องชั่งน้ำหนักเหล็กเส้น
  • เวอร์เนียร์หรือสไลด์คาลิปเปอร์สำหรับวัดเส้นผ่านศูนย์กลาง
  • ใช้คู่มือ มอก. อ้างอิงน้ำหนักตามขนาด

ตารางน้ำหนักเหล็กเส้นตามมาตรฐาน มอก.

1. เหล็กเส้นกลม มอก. 20-2559

ขนาด (มม.)

พื้นที่หน้าตัด (ตร.มม.)

น้ำหนัก (กก./.)

6

28.27

0.222

9

63.62

0.499

12

113.10

0.888

15

176.71

1.387

19

283.53

2.226

25

490.87

3.853

 

2. เหล็กข้ออ้อย  มอก. 24-2559

ขนาด (มม.)

พื้นที่หน้าตัด (ตร.มม.)

น้ำหนัก (กก./.)

10

78.54

0.617

12

113.10

0.888

16

201.06

1.578

20

314.16

2.466

25

490.87

3.853

28

615.75

4.834

32

804.25

6.313

หมายเหตุ: น้ำหนักต่อเมตรนี้เป็นค่าโดยประมาณตาม มอก. ใช้สำหรับชั่งน้ำหนักเหล็กจริงและเทียบกับจำนวนเมตร เพื่อป้องกันการโดนลดสเปก

ตามมาตรฐาน มอก. 20-2559 (สำหรับเหล็กเส้นกลม) และ มอก. 24-2559 (สำหรับเหล็กข้ออ้อย) จะมีการกำหนด “ค่าความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้” เอาไว้ทั้งด้านขนาดและน้ำหนัก เพื่อควบคุมคุณภาพเหล็กให้ปลอดภัยในการใช้งาน ดังนี้ :

1. ค่าความคลาดเคลื่อนของน้ำหนักตามมาตรฐาน มอก.

ประเภทเหล็ก

ความคลาดเคลื่อนของน้ำหนักที่ยอมรับได้

เหล็กเส้นกลม (RB)

± 6.0 ถึง ± 10.0% ของน้ำหนักมาตรฐานต่อเส้น ขึ้นอยู่กับขนาดของเหล็กเส้น

เหล็กข้ออ้อย (DB)

± 4.0 ถึง ± 8.0% ของน้ำหนักมาตรฐานต่อเส้น ขึ้นอยู่กับขนาดของเหล็กเส้น

หมายความว่า

  • ถ้าน้ำหนักจริง “เบากว่า” ที่กำหนดนี้ → ถือว่า ไม่ได้มาตรฐาน

2. ค่าความคลาดเคลื่อนของขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง

  • โดยทั่วไปอนุญาตให้มีค่าคลาดเคลื่อนได้ประมาณ ±0.4 มม. (ขึ้นอยู่กับขนาดเหล็ก)
  • เช่น เหล็ก 12 มม. → ต้องมีขนาดอยู่ในช่วงประมาณ 11.6 – 12.4 มม.

 ถ้าต่ำกว่าค่าคลาดเคลื่อนนี้ ถือว่าเป็นเหล็กไม่ได้มาตรฐาน

ผลกระทบ:

  • รับแรงได้น้อยลงกว่าที่วิศวกรคำนวณ
  • เสี่ยงต่อโครงสร้างทรุด, ถล่ม, หรือพังกลางอายุการใช้งาน
  • หากตรวจสอบแล้วไม่ผ่าน มอก. → อาจไม่สามารถขอใบอนุญาตก่อสร้าง หรือทำประกันภัยอาคารได้

4. ขอใบรับรองคุณภาพเหล็ก (Mill Certificate / Test Certificate)

การขอ Mill Certificate หรือใบรับรองคุณภาพจากโรงงานผู้ผลิตเหล็กเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อยืนยันว่าเหล็กที่จำหน่ายผ่านการทดสอบคุณสมบัติตามมาตรฐาน เช่น 

  • ค่าความแข็งแรง (Yield Strength, Tensile Strength)
  • ส่วนผสมทางเคมี (Chemical Composition)
  • การผ่านการทดสอบดัดงอและยืดตัว

การมีใบรับรองนี้ เพื่อรับรองว่าเหล็กแต่ละล็อตมีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน  ทำให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ หากมีปัญหาโครงสร้างเกิดขึ้นในอนาคต

5. ซื้อจากผู้จำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้ง และมีความน่าเชื่อถือ

การเลือกซื้อเหล็กจากผู้จัดจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งจากโรงงานและมีความน่าเชื่อถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการหลีกเลี่ยงการซื้อเหล็กปลอม หรือเหล็กไม่มี มอก. ผู้จำหน่ายที่ดีจะมีเอกสารรับรองสินค้าชัดเจนและสามารถแนะนำเหล็กที่ตรงกับประเภทงาน

ผู้จัดจำหน่ายเหล็กที่น่าเชื่อถือจะมี:

  • ใบอนุญาตจำหน่ายเหล็กจากโรงงาน
  • ความรู้เรื่องสินค้า และสามารถแนะนำเหล็กให้ตรงกับประเภทงาน
  • มีหน้าร้านหรือโกดังที่สามารถตรวจสอบสินค้าได้ก่อนซื้อ

หลีกเลี่ยงการซื้อจากแหล่งไม่เป็นทางการ เช่น ผ่านพ่อค้าคนกลางราคาถูกผิดปกติ หรือสื่อออนไลน์ที่ไม่มีข้อมูลผู้ขายชัดเจน

ความเสี่ยงจากการใช้เหล็กปลอมและเหล็กไม่มี มอก.

การใช้เหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่มี มอก. จะทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อโครงสร้าง เช่น

  • โครงสร้างอาจทรุดตัวหรือพังทลายแม้ในสภาพใช้งานปกติ
  • รับน้ำหนักไม่ได้ตามที่ออกแบบ ทำให้เกิดรอยร้าวหรือการพังทลาย
  • ไม่สามารถผ่านการตรวจสอบของวิศวกร หรือขออนุญาตก่อสร้างได้
  • เสี่ยงต่อการสูญเสียชีวิต ทรัพย์สิน และชื่อเสียงของผู้รับเหมา/เจ้าของโครงการ

สรุป

การเลือกเหล็กที่ได้มาตรฐาน มอก. พร้อมกับใบรับรองคุณภาพ และการตรวจสอบข้อมูลจากผู้จำหน่ายที่เชื่อถือได้ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การลงทุนในเหล็กที่มีคุณภาพสูงจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจในโครงการก่อสร้างของคุณ

เช็กเหล็กเส้น

ติดต่อเรา/เช็คราคาเหล็ก

 

หมวดหมู่ : ทั่วไป
เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ_1
เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ (Structural Steel) คือ เหล็กที่ผ่านการขึ้นรูปเป็นลักษณะต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะกับการนำไปใช้งานด้านโคร...
เหล็กเบา
รวบรวมสูตรการคำนวณน้ำหนักเหล็กในรูปแบบต่าง ๆ พร้อมตัวอย่างประกอบ เพื่อช่วยให้ผู้อ่านสามารถนำไปใช้ได้จริง ทั้งในงานวิศวกร...
สูตรคำนวนเหล็ก
รวบรวมสูตรการคำนวณน้ำหนักเหล็กในรูปแบบต่าง ๆ พร้อมตัวอย่างประกอบ เพื่อช่วยให้ผู้อ่านสามารถนำไปใช้ได้จริง ทั้งในงานวิศวกร...
ราคาวัสดุก่อสร้าง
รวบรวมสูตรการคำนวณน้ำหนักเหล็กในรูปแบบต่าง ๆ พร้อมตัวอย่างประกอบ เพื่อช่วยให้ผู้อ่านสามารถนำไปใช้ได้จริง ทั้งในงานวิศวกร...
เหล็กเต็ม
ในวงการก่อสร้าง วัสดุที่เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของอาคาร คงหนีไม่พ้น “เหล็ก” ซึ่งมีหลายประเภท แต่หนึ่งในตัวเลือกที่ช่าง...
Green Steel เหล็กสีเขียว
Green Steel และการบริหาร Carbon Footprint จะกลายเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเหล็กและอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ป...