เหล็กเอชบีม (H-Beam) และเหล็กไอบีม (I-Beam) เป็นวัสดุก่อสร้างที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในงานโครงสร้างเหล็ก เนื่องจากมีความแข็งแรง ทนทาน และสามารถรองรับน้ำหนักได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งสองประเภทนี้มีลักษณะและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในโครงการก่อสร้างและอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะ ในบทความนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับเหล็กเอชบีมและเหล็กไอบีมว่าคืออะไร มีคุณสมบัติและการใช้งานอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับโครงการของคุณ
หัวข้อ
เหล็กเอชบีม (H-Beam) และเหล็กไอบีม (I-Beam) คืออะไร?
เหล็กเอชบีม (H-Beam) และเหล็กไอบีม (I-Beam) เป็นวัสดุก่อสร้างที่มีความสำคัญในงานโครงสร้างเหล็กทั้งในภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง เนื่องจากมีความแข็งแรง ทนทาน และสามารถรองรับน้ำหนักได้ดี แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันไป ดังนี้
เหล็กเอชบีม (H-Beam)
เหล็กเอชบีมมีลักษณะเป็นรูปตัว H โดยมีความกว้างและความยาวของแต่ละด้านเท่ากัน ทำให้มีความแข็งแรงสูง เหล็กเอชบีมนิยมใช้ในงานโครงสร้างอาคาร เสา และคาน มีหลากหลายขนาดให้เลือกตามความต้องการ และมีความยาวมาตรฐานตั้งแต่ 6 เมตร, 9 เมตร และ 12 เมตร เหล็กเอชบีมเหมาะสำหรับงานโครงสร้างที่ต้องการความมั่นคงและการรับน้ำหนักมาก เช่น โครงสร้างสะพาน อาคารสูง หรือโครงสร้างอุตสาหกรรม
เหล็กไอบีม (I-Beam)
เหล็กไอบีมมีลักษณะเป็นรูปตัว I รูปร่างใกล้เคียงกับเหล็กเอชบีม แต่แตกต่างกันที่ขนาดและการใช้งาน ข้อดีของเหล็กไอบีมคือสามารถรองรับน้ำหนักได้มากกว่าเหล็กเอชบีม แต่ราคาต่อน้ำหนักจะสูงกว่าเช่นกัน เหล็กไอบีมมีความยาวมาตรฐานตั้งแต่ 6 เมตร, 9 เมตร และ 12 เมตร เหล็กไอบีมเหมาะสำหรับงานโครงสร้างที่ต้องการการรับน้ำหนักในแนวตั้ง เช่น เสาคาน หรือโครงสร้างที่ไม่ต้องการการรับแรงในแนวนอนมากนัก
เหล็กไวร์แฟรงค์ (Wide-Flange)
เหล็กไวร์แฟรงค์มีลักษณะคล้ายกับเหล็กไอบีม แต่มีความบางมากกว่าและราคาถูกกว่า เหล็กไวร์แฟรงค์เหมาะสำหรับงานก่อสร้างทั่วไปที่ไม่ต้องการการรับน้ำหนักมากนัก มีความยาวมาตรฐานตั้งแต่ 6 เมตร, 9 เมตร และ 12 เมตร
ตารางเปรียบเทียบ เหล็กเอชบีม (H-Beam) vs เหล็กไอบีม (I-Beam) vs เหล็กไวร์แฟรงค์ (Wide-Flange)
ณสมบัติ | เหล็กเอชบีม (H-Beam) | เหล็กไอบีม (I-Beam) | เหล็กไวร์แฟรงค์ (Wide-Flange) |
---|---|---|---|
ลักษณะหน้าตัด | รูปตัว H | รูปตัว I | คล้ายเหล็กไอบีม แต่บางกว่า |
ความแข็งแรง | สูงในแนวนอนและแนวตั้ง | สูงในแนวตั้ง | ปานกลาง |
การใช้งาน | โครงสร้างสะพาน อาคารสูง | เสาคาน โครงสร้างทั่วไป | งานก่อสร้างทั่วไป |
ความยาวมาตรฐาน | 6 เมตร, 9 เมตร, 12 เมตร | 6 เมตร, 9 เมตร, 12 เมตร | 6 เมตร, 9 เมตร, 12 เมตร |
ขนาด | หลากหลาย | หลากหลาย | หลากหลาย |
ราคาต่อหน่วยน้ำหนัก | ปานกลาง | สูงกว่า H-Beam | ต่ำกว่า I-Beam |
ความสามารถในการรับน้ำหนัก | สูงในทุกทิศทาง | สูงในแนวตั้ง | ปานกลาง |
การนำไปใช้งาน | โครงสร้างที่ต้องการความมั่นคงสูง | โครงสร้างที่ต้องการรับน้ำหนักแนวตั้ง | งานก่อสร้างทั่วไปที่ไม่ต้องการรับน้ำหนักมาก |
ราคา | ปานกลาง | สูง | ต่ำกว่า H-Beam และ I-Beam |
เหล็กเอชบีม (H-Beam) เหมาะสำหรับโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงทั้งในแนวนอนและแนวตั้ง เช่น โครงสร้างสะพานและอาคารสูง เหล็กไอบีม (I-Beam) เหมาะสำหรับโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงในแนวตั้ง เช่น เสาคาน และเหล็กไวร์แฟรงค์ (Wide-Flange) เหมาะสำหรับงานก่อสร้างทั่วไปที่ไม่ต้องการรับน้ำหนักมากและต้องการความคุ้มค่าทางด้านราคา การเลือกใช้เหล็กแต่ละประเภทขึ้นอยู่กับความต้องการและเงื่อนไขของโครงการก่อสร้างแต่ละงาน
การเลือกใช้งาน
การเลือกใช้เหล็กเอชบีมหรือเหล็กไอบีมขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงการและการใช้งานที่ต้องการ ทั้งสองประเภทมีคุณสมบัติที่ตอบสนองความต้องการในด้านความแข็งแรงและการรับน้ำหนัก แต่การใช้งานที่เหมาะสมจะช่วยให้โครงสร้างมีความมั่นคงและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
สรุป
เหล็กเอชบีมและเหล็กไอบีมเป็นวัสดุโครงสร้างที่สำคัญในงานก่อสร้างและอุตสาหกรรม ด้วยคุณสมบัติที่แข็งแรงและทนทาน การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมจะช่วยให้โครงการมีความมั่นคงและปลอดภัย หจก.พรณรงค์ โลหะกิจ มีสินค้าทั้งเหล็กเอชบีมและเหล็กไอบีมที่มีมาตรฐานและคุณภาพสูง พร้อมให้บริการจัดส่งทั่วประเทศ คิดถึงเหล็ก คิดถึงพรณรงค์
ติดต่อเรา
- Facebook : หจก.พรณรงค์ โลหะกิจ
- โทร/แฟกซ์
- 02-287-4097
- 090-456-1183 (มือถือ)
- Email : phornnaronglohakit@hotmail.com
- LINE ID : PNRLOHAKIT
- แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/1ZaZpTCZGdeLgqwVA